ใช้ "สี" เติมพลังให้สมอง เรียนรู้ไว!
อาจจะพอจดจำโฆษณาปากกาสียี่ห้อหนึ่งได้ ที่บอกว่า "สีช่วยเพิ่มความจำ" แล้วก็มีผลงานวิจัยออกมายืนยัน สีสันที่เรารับรู้บนโลกเรานี้ ล้วนมีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และการเรียนรู้ของเราด้วย จากงานวิจัยด้านสมองบอกว่า ร้อยละ 80 ของสมองคนเรารับรู้ข้อมูลจากการมองเห็น และเจ้าสีสันต่างๆ เหล่านี้ก็กระตุ้นให้เกิดทั้งความรู้สึกและการรับรู้ข้อมูลของสมองเสียด้วย
มีผู้สนใจและศึกษาเรื่องสี และผลของสีสันต่างๆ จนเกิดเป็นศาสตร์ที่เรียกว่า Color Psychology และปัจจุบันนี้ เราจะเห็นว่ามีห้องเรียน ร้านค้า ตราสินค้า ต่างคำนึกถึงการใช้สี ในการสร้างตึก มีมัณฑนากรที่ออกแบบตกแต่งห้อง วางเฟอร์นิเจอร์ใช้สอยต่างๆ โดยคำนึงถึงสีสันต่างๆ มากขึ้น
กลุ่มคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนก็เริ่มทาสีห้องนอนลูกๆ ด้วยสีสันสดใสหลายสี มากกว่าจะมีสีเดียวอย่างขาว ครีม หรือฟ้าเท่านั้นแบบในอดีต ก็เพราะมีผลการวิจัยออกมายืนยันเช่นกันว่า สีห้องนอนของเด็กๆ ควรเป็นสีสันสดใส เพราะลูกตัวน้อยที่นอนในสีสันสดใส จะฉลาดและเรียนรู้เร็วกว่าลูกน้อยที่นอนในห้องนอนทึมๆ เพราะสีสันต่างๆ จะไปกระตุ้นการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์มากกว่านั่นเอง เช่นเดียวกับกรณีสีของห้องเรียนในโรงเรียนอนุบาลค่ะ
แต่ก็ใช่ว่าสีจะมีผลต่อเด็กเล็กๆ เท่านั้นนะคะ จริงๆ สีมีผลต่อมนุษย์ทุกคนเลย ยิ่งถ้าคุณครูยอมให้พวกเราเหล่านักเรียนทำการบ้านหรือจดเนื้อหาลงสมุดที่ต้องส่งครูประจำด้วยปากกาสีต่างๆ ได้ก็จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้น้องๆ หลายคนอยากทำงานมากขึ้นด้วย และในครั้งนี้พี่เกียรติก็จะชวนชาว Dek-D.com จัดห้อง หรือปรับโต๊ะทำการบ้านหรืออุปกรณ์การเรียนให้มีสีสันต่างๆ เหล่านี้ เพื่อช่วงเพิ่มความสามารถในการจดจำ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และผ่อนคลายในยามเหนื่อยล้าจ้า และสีอะไรบ่งบอกหรือช่วยเราในเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามมาดู(อ่าน)กันเลย
สีแดง แสดงความรู้สึกร้อนแรง แทนอารมณ์ได้ทั้งความโกรธและความรัก สำหรับสีนี้ นำมาทาเป็นสีห้องนอนเห็นจะไม่ได้ เพราะแทนที่จะได้นอน ก็จะรู้สึกตื้นเต้นตลอดเวลา เพราะจากการศึกษาแล้วพบว่าสีนี้กระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดเลือดแรงขึ้น ชีพจรจะเต้นเร็ว ดีไม่ดีจะเก็บไปฝันว่านอนท่ามกลางกองเพลิงเสียอีก แต่เราสามารถหาสิ่งของสีแดง มาวางไว้บนโต๊ะทำงาน เพราะสีแดงช่วยเพิ่มสมาธิและความจำได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ๋งมากๆ แต่ก็อย่านำของสีแดงมาใกล้กับสีเขียวและม่วง เพราะสีขัดแย้งกันมากยิ่งมองแล้วปวดลูกตา พี่เกียรติว่าเรื่องที่สีแดงกระตุ้นให้ใจเต้นเร็วเห็นท่าจะจริง เพราะแต่ก่อนที่พี่เกียรติใจเต้นตึกตักทุกครั้งที่ส่งงานครู คุณครูจะกากบาทสีแดงมาเต็มหน้ากระดาษทุกครั้ง ฮ่าๆ
สีเหลือง แสดงถึงความร่าเริงสดใส แต่อยู่สีเดียวไม่ได้ ต้องประกอบกับสีอื่นๆ ที่เข้มกว่า ดังนั้นจึงมักใช้ในสื่อสิ่งพิมพ์ ทำเป็นตัวอักษรบนหน้ากระดาษหรือพื้นเว็บไซต์ สีของเว็บไซต์ Dek-D.com ก็ใช้สีเฉดนี้ แสดงถึงความร่าเริงสดใสเหมือนกันกับสีส้มที่ช่วงลดความรู้สึกหดหู่ได้ เป็นสีที่แสดงถึงความกระฉับกระเฉง ว่ากันว่าเป็นสีที่ใช้เรียกความน่าสนใจได้ ที่สำคัญกระตุ้นความอยากอาหารด้วย แปลว่า เข้าเว็บ Dek-D.com เรา นอกจากจะร่าเริงมากขึ้นแล้ว ก็จะหิวมากขึ้นด้วยสินะ อิ อิ
สีน้ำตาล แสดงถึงเก่าแก่ โบราณ แต่ก็อบอุ่น สื่อถึงความมั่นคงของครอบครัวได้ แต่ถ้าใช้ไม่ดีก็จะนำพาความน่าเบื่อมาเลยทีเดียว สีเฉดนี้เห็นบ่อยในสไตล์การแต่งตัวแบบแนวๆ น้องๆ คงสังเกตได้ว่าคนแนวๆ ทั้งหลาย แม้จะไม่ขาวสดใส แต่ก็จะเก๋ไก๋ใช่เล่น ถ้าเปลี่ยนมาจดงานด้วยปากกาสีน้ำตาลบ้าง นอกจากจะไม่จำเจแล้ว งานก็น่าสนใจมากขึ้นด้วย ลองดูสิ!
สีเขียว แสดงถึงการเจริญเติบโต การเงิน และสิ่งแวดล้อม ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หากโกรธหรือโมโหให้มองหาต้นไม้หรือสีเขียว เพราะจะช่วยให้หายใจได้ลึกขึ้นและช้าลง เหมือนว่ากำลังจะได้รับพลังอันผ่อนคลายจากธรรมชาติ แต่บางครั้งหากนำมาเปรียบกับคนก็อาจหมายถึงสุขภาพไม่ดีเหมือนกัน อย่างหน้าเขียว และในนิยายหลายเรื่อง เราก็จะเห็นว่าสีเขียวเป็นสีของตัวร้ายเสียด้วย น้องๆ ลองหาต้นไม้เล็กๆ หรือภาพต้นไม้สีเขียว มาวางไว้ที่โต๊ะเพื่อช่วยผ่อนคลายเวลาทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์นานๆ นะคะ พักสายตา และพักสมอง ให้โอกาสสมองได้จัดเรียงข้อมูลบ้าง ก็จะทำให้ค้นหาหรือใช้ข้อมูลในสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรืออาจหาโคมไฟสีเขียวอ่อนๆ มาใช้ขณะอ่านหนังสือก็ได้ นอกจากผ่อนคลายแล้วยังเพิ่มสมาธิด้วย
สีน้ำเงิน ถ้าสีแดงทำให้เลือดสูบฉีดเร็ว ก็มีสีน้ำเงินนี่แหละที่ทำให้เลือดสูบฉีดช้าลง เยือกเย็น สงบ และซื่อสัตย์ แสดงถึงความทันสมัยของเทคโนโลยี จึงมีหลายๆ เว็บไซต์นำไปเป็นพื้นหลังของเว็บ ในขณะเดียวกันก็ดูอนุรักษ์นิยมด้วย แต่ไม่ควรใช้ร่วมกับสีเหลืองหรือส้มนะจ๊ะ สีจะฉูดฉาดเกินไปทำร้ายสายตาอย่างไม่น่าเชื่อ
สีฟ้า ว่ากันว่าสีนี้ควรใส่ไปสัมภาษณ์งาน เพราะช่วยให้บรรยากาศสงบ และดูน่าเชื่อถือ แบบนี้น้องๆ โรงเรียนไหนใส่ชุดพละสีฟ้า ไปอ้อนวอนขอคะแนนพิเศษจากคุณครู ครูจะต้องใจอ่อนแน่ๆ เลย อิอิ สีเฉดนี้ช่วยลดความรู้สึกวุ่นวาย หากตอนไหนน้องๆ ชาว Dek-D.com ไม่สบายใจ คิดถึงบ้าน ฯลฯ ลองมองท้องฟ้าสดใส (ไม่เอาฟ้าครึ้ม แบบฝนจะตกนะ) จะทำให้ใจปลอดโปร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญสีฟ้ากระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ หากทำงานศิลปะหรืองานที่ต้องใช้ความคิดต่างๆ ลองหาสีฟ้าวางใกล้ดูจ้า
สีขาว แสดงถึงความบริสุทธิ์ ดังที่เราเปรียบเด็กๆ ว่าเป็นผ้าขาว เป็นสีที่นิยมใช้ เพราะเข้าได้กับทุกๆ สี แต่ใช่ว่าจะมีแต่ความหมายดีนะคะ เพราะสีขาวเอง กลับทำให้ดูอ่อนแอ เหนื่อยล้าก็ได้ ดังนั้น ถ้าเหนื่อยๆ ก็อย่ามองหาความสงบด้วยสีขาว จะยิ่งตอกย้ำให้เหนื่อยล้านะจ๊ะ
สีเทา สีกลางที่ดูน่าเบื่อหน่าย ซ้ำซาก ไม่ควรใช้สีเทาเดี่ยวๆ ในสิ่งของ เสื้อผ้า ห้อง ฯลฯ เด็ดขาด เพราะจะทำให้ขาดชีวิตชีวา แต่สีเทากับเข้าได้ดีกับสีเฉดน้ำเงิน หรือม่วง ซึ่งจะขับให้ดูสง่างามมากยิ่งขึ้น
สีดำ ก็ตรงข้ามกับสีขาว ที่มีหมายความรุนแรง แต่ก็มีมุมดีๆ หากรู้จักเลือกใช้ สีดำโดดๆ จะให้ความรู้สึกการหยุดชะงัก หากนำมาไว้ข้างตัว จะทำให้รู้สึกอัดอัด คิดอะไรไม่ออกได้ แต่หากนำมาประกอบรวมกับสีขาวหรือสีสดใสดอื่นๆ จะทำให้รู้สึกฉลาดเฉลียว ดูซับซ้อน ลึกลับ น่าค้นหามากขึ้น
ยังมีอีกหลายสีแต่ขอนำเสนอเท่านี้ก่อนนะคะ ไม่งั้นตาจะลายไปกับตัวอักษรสีเทาๆ ไปกันหมด พี่เกียรติเป็นห่วง อิ อิ นอกจากนี้ตามหลักทฤษฎีทางจิตวิทยาของสีแล้ว ไม่ได้แบ่งแยกสีฟ้ากับน้ำเงินนะคะ ถือว่าเป็นสีและเฉดเดียวกัน แต่พี่เกียรติว่าต่างกันนะ ดังเช่นการรับรู้และตีความของสมองแต่ละคนที่แตกต่างกันนั่นเอง ดังนั้น ถ้าน้องๆ จะบอกว่าสีขาวสกปรก พี่เกียรติก็ว่าไม่ผิดนะ ฮ่าๆๆ
จริงๆ แล้ว การเลือกใช้สีต่างๆ ในชีวิตของเรา การทำงาน การจัดห้อง การจัดโต๊ะ หรือแม้แต่การเลือกใส่เสื้อผ้า ก็อยู่ที่ความชอบของเราทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องระมัดระวังและเลือกใช้ให้ถูกกาลเทศะ น้องๆ คงไม่เอาปากกาสีชมพูไปตอบข้อสอบ หรือใส่ชุดสีดำไปงานแต่งงานใครเนอะ แต่ถ้าใครเลือกใช้สีให้เหมาะสมกับการรับรู้ของสมองด้วยก็ดีมากขึ้นจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น